– เมื่อจบวัน ราคาบวกสูงขึ้นมากกว่าตอนเปิด แท่งเทียนก็จะเป็นสีเขียว
กฎหมายตลาดหุ้นโปร่งใส แรงจูงใจนักลงทุน
การค้าไม่เอื้อประโยชน์ "วิกฤต"ตลาดหุ้นไทย
พม.ตั้งเป้าเพิ่ม "ล่ามภาษามือ" ให้มีประจำทั่วประเทศ
จีนมีสำนวนสำคัญหนึ่ง คือ “ไต้ลวี่เม่า” (戴绿帽) ซึ่งแปลว่า “สวมหมวกสีเขียว” อันหมายถึง การโดนสวมเขาหรือถูกคนรักนอกใจ
- สีดัชนีตลาดหุ้นจีน จะเห็นได้ว่า หุ้นขึ้นหรือแม้แต่แท่งเทียนขาขึ้น ก็ใช้สีแดง (เครดิต: 中国基金报) -
รู้หรือไม่ ช่วงที่กระดานหุ้นไทยร่วงแดงเถือก จนหลายคนแซวติดตลกว่า คงต้องซื้อ “แว่นสีเขียว” ใส่แล้ว เผื่อทุกอย่างจะได้ดีขึ้น แต่มีประเทศหนึ่งที่ใช้สีดัชนีตลาดหุ้น “สวนทาง” กับตลาดหุ้นทั่วโลก นั่นคือ “ตลาดหุ้นจีน” ที่ใช้ “สีแดง” เพื่อสื่อถึงหุ้นปรับตัวขึ้น และ “สีเขียว” หมายถึงหุ้นปรับตัวลง
กรมอุตุ ประกาศเตือนน้ำท่วม ช่วงปลายเดือน ฝนเพิ่มขึ้น มรสุมเข้า
แม้แต่ภัตตาคารจีนในหลายที่ก็มีสีแดง เพื่อเป็นสิริมงคล ดึงดูดให้ลูกค้าหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย อีกทั้งอั่งเปา (红包) หรือ “ซองแดง” ที่ใส่เงิน ผู้ใหญ่จะมอบให้ลูกหลานที่ทำงานแล้ว เพื่ออวยพรให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ตัวอย่างเหล่านี้สะท้อน “ความสำคัญของสีแดง” ในสังคมจีน ที่สื่อถึงความโชคดี และมั่งคั่งตลอดปี
โครงสร้างเรื่องประชากรของไทย ไม่ทราบจะแก้อย่างไร เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีลูก read here คนแก่อายุยิ่งเพิ่มขึ้น เป็นข้อเสียเปรียบอันดับต้น ๆ เนื่องด้วยประชากรเป็นคนที่สร้างเศรษฐกิจ ยิ่งมากเศรษฐกิจยิ่งโต ยิ่งมีคุณภาพเศรษฐกิจก็ยิ่งพัฒนา
"ต่างชาติจริง ๆ พวกนี้เขาไม่ได้มีอะไรหรอก เขาก็บินไปทั่วโลก ดูว่าที่ไหนดี ให้ผลตอบแทนดี เขาก็ไป ไม่เหมือนคนไทย การจะออกไปนอกประเทศมันยุ่ง ต้องแลกเปลี่ยนเงินบาทขาดทุน แต่ต่างชาติพวกนี้เขาไปบ่อย เขาบินไปทั่วโลก เขาไปมานานแล้ว เขาจะดูว่าประเทศไหนกำลังรุ่ง และก็ดูภาพยาว"
จึงต้องทำความเข้าใจว่า "โลกสมัยใหม่ ตลาดหุ้น คือ หัวใจของเศรษฐกิจ"
สีของการซื้อขายหุ้นมักจะหมายถึงสีของการซื้อขายหุ้นปริมาณคือสีแดงและสีเขียว สีแดงหมายถึงปริมาณการซื้อขายหุ้นที่เพิ่มขึ้นขณะที่สีเขียวระบุว่าปริมาณการซื้อขายหุ้นลดลง
คือ คนโกงเขาก็กล้าไง เพราะคดีมันง่าย ตามยาก หลุดไปเยอะเหมือนกัน ฉะนั้น ผลตอบแทนสูงมาก แต่ความเสี่ยงที่จะถูกจับมันน้อย คุ้มที่จะเสี่ยง มีหลายคนพอเกิดคดีเสร็จก็หนีไปอยู่ต่างประเทศ